20.12.20Script Blog to World Wide Web!

Possibly Connected

A portrait of bird, the background is the petals of an oversized lily, The flower has green stamens and long leaves, creating a dreamy effect, pastel color palette. It was created using digital painting in the style of artists such as award winning illustrators

1 ความคิดเห็น:

เวลา 5 กันยายน 2568 เวลา 22:14 , Blogger Phra Suppabuddho กล่าวว่า...

›››› Phutthatham Database ‹‹‹‹
“รู้เท่าผู้วิเศษ เพื่อทำงานให้ผู้วิเศษ”

“เรื่อง ในทางคติ อย่างไรนั้น ข้อควรเป็นห่วง ในมุมมองของพระสงฆ์ ที่พึงต้องมีคืออะไร?, หากที่จะให้อาตมา สะท้อน หรือแสดงอธิบาย ข้อพึงสำเหนียก ไปถึงเรื่องประดาเหล่านี้ นั้น ก็น่าที่จะเห็นว่า AI น่าเป็นห่วง ว่า AI ฉะนั้น จะอยู่ตรงไหนในพระไตรปิฎก เพราะ AI ยังมิได้ถูกนิยาม หรือตราขึ้นว่า คือ ‘นิรุตติธรรม’ ดังนั้น ความเป็นส่วน หรือเป็นอะไร? ในคัมภีร์ หรือปกรณ์วิเศษ AI ก็จึงไม่มีความเป็นอะไร หรือมีความหมายอะไร ในนั้นทั้งนั้น, ซึ่งการที่จะให้สะท้อนมุมมองอย่างนี้ แล้วน่าใจหาย หรือน่าสะท้อนใจ สำหรับคนที่มีความรัก และหลง ในความมีมิตรภาพอันอย่างแน่นแฟ้นกับระบบปัญญาประดิษฐ์ หรืองานสร้างสรรค์ ของปัญญาประดิษฐ์ นั้น แล้ว ซึ่งย่อมต้องการ หรือปรารถนาที่จะให้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มีที่ หรือมีแห่งหนในสิ่งที่เรียกว่าคัมภีร์ แล้ว โดยประการต่าง ๆ

ดังนี้ ข้ออรรถ ข้อธรรม หรือการมีปรารภธรรม หรือเหตุ ที่พึงยกขึ้น เพื่อเป็นความแจ้งกระจ่าง ในเจตจำนง เจตนา และความมุ่งหมายร่วมกัน ของการพัฒนา องค์ความรู้ที่เป็นองค์รวม มนุษย์เรา จะตรา หรือให้ความหมาย ตามตรงโดยตรงแก่ AI ว่าอย่างไร? เพราะ ปัญญา ญาณ และนิรุตติดังกล่าว ฉะนั้น ไม่อาจที่จะเรียกได้ว่า คือ ‘นิรุตติธรรม’ ตามนัยที่เป็นคุณค่าแท้ ตามอย่างที่พระไตรปิฎก พระคัมภีร์ หรือพระปกรณ์วิเศษแสดง, เพราะอย่างแคบ นิรุตติธรรม ย่อมหมายถึง ‘นิรุตติปถสุตตะ’ และอย่างกว้าง ย่อมหมายถึงงาน ของ ‘นิรุตติสภา’ ซึ่ง ในแง่นี้ ในข้อนี้ นัยทั้ง ข้ออรรถ และข้อธรรม บรรดาปวงปราชญ์ และบัณฑิตทั่วโลก จะพึงต้องตรา หรือนิยามความหมายขึ้น สำหรับตัวระบบปัญญาประดิษฐ์ ดังกล่าวนั้น ให้เหมือนอย่างการใช้ปฏิทินเดียวกันนั่นเอง

คือจะต้อง ระบุ หรือจำเพาะ ได้ว่า เช่นนี้ เป็น ปัญญา ญาณ และนิรุตติ เช่นนี้ มิใช่ ปัญญา ญาณ และนิรุตติ อันย่อมหมายความได้อย่าง เรื่องที่แคบสุด (คือ นิรุตติปถสูตร) และกว้างสุด (คือ การงานแห่ง นิรุตติสภา) นั่นเอง, และในเรื่อง ของการเข้ามาปฏิวัติ การศึกษาเรียนรู้ หรือการงานอย่างสหวิทยาการฉะนั้น เราก็ย่อมที่จะเห็นว่า ต่อไปนี้ มนุษย์เรา หรือแม้นแต่เครื่องจักรต่อเครื่องจักร จะต้องศึกษา หรือถอดรหัส ส่วนที่เรียกว่า ‘ความสำเร็จรูป’ นั่นเอง ไม่ใช่การศึกษาวัตถุดิบ อย่างสารเบื้องต้น หรือสารตั้งต้น, คือหมายความว่า จะต้องศึกษาใบงาน ของกันและกัน มากกว่าที่จะเรียกว่า ศึกษากันและกัน, ด้วย ประการทั้งปวงนั้น ว่า วิทยาการปวงกล่าวนั้น หรือ AI จะต้องถูกนิยาม หรือระบุได้ก่อน ว่า คือ ‘นิรุตติ หรือนิรุตติธรรม’ ตามความที่จะอำนวยให้ มนุษย์ หรือผู้ที่ศึกษา นั้น อาจสามารถ ได้ ปรารภธรรม ปรารภคติ หรือปรารภเหตุ ในทางมโนคติ ดังกล่าว นั้น ๆ ได้”

 

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก